UFABETWIN
ข่าวกีฬา

UFABETWIN คว้าแชมป์เพราะคิ้วแตก ? : คาร์ลอส คูเอดราส กับชัยชนะเหนือ ศรีสะเกษ ที่ยังคาใจถึงวันนี้

หากกล่าวถึงไฟต์หนึ่งของ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ที่แฟนมวยชาวไทยลืมไม่ลง หนึ่งในตัวเลือกนั้นย่อมเป็นความพ่ายแพ้ต่อ คาร์ลอส คูเอดราส นักชกชาวเม็กซิกัน กับคำตัดสินที่สร้างความคาใจต่อคนไทยทั้งประเทศ

ย้อนกลับไปปี 2014 ศรีสะเกษซึ่งยังครองแชมป์โลก สมัยแรก ต้องพบเจอกับนักมวยหน้าใหม่มาแรง และขณะที่การต่อสู้กำลังเป็นไปอย่างดุเดือด ยอดนักชกชาวไทยพลาดเอาหัวโขกผู้ท้าชิง นำมาสู่ผลลัพธ์ที่หมายถึงการเสียแชมป์โลกครั้งแรกของศรีสะเกษ

หลังจากรอคอยยาวนานถึง 8 ปี รีแมตช์ของทั้งคู่กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง … นี่คือเรื่องราวของ คาร์ลอส คูเอดราส ผู้ชายคนแรกที่กระชากแชมป์โลกจากศรีสะเกษ และเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนั้น

เริ่มจากบทบาทนักชกสมัครเล่น

ก่อน คาร์ลอส คูเอดราส จะคว้าชัยชนะเหนือ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น จากการพบกันครั้งแรกเมื่อปี 2014 เขาถือเป็นหนึ่งในนักมวยสากลสมัครเล่นที่มีความสามารถสูงที่สุดคนหนึ่งของเม็กซิโก และถ้าย้อนเรื่องราวกลับไปไกลกว่านั้น ความสามารถบนเส้นทางหมัดมวยของ คูเอดราส ฉายแสงให้เห็นชัดเจนตั้งแต่เขายังเด็ก เพียงแต่เป็นในทิศทางที่ไม่ถูกต้องมากนัก

คูเอดราสเติบโตขึ้นมาโดยมีนิสัยซุกซนและสมาธิสั้น ความประพฤติของเขาในวัยเด็กค่อนข้างจะเป็นไปทางเกเร จนบางครั้งสร้างอันตรายแก่ผู้คนรอบข้าง นั่นจึงทำให้ คูเอดราส มีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนเป็นประจำในช่วงเวลาที่เขาศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมปลาย

กีฬามวยสากลเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเขาหลังจากนั้น โดยครอบครัวตัดสินใจส่ง คูเอดราส ไปเรียนชกมวยเพื่อหวังจะให้เขามีระเบียบวินัยที่ดีขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมานั้นเกินคาด เพราะ คูเอดราส ไม่เพียงแต่จะเลิกเกเรและเริ่มโฟกัสกับบางสิ่งเหมือนคนปกติทั่วไป แต่พรสวรรค์ในการชกมวยของเขายังฉายแสงออกมา จนเจ้าตัวตัดสินใจก้าวสู่ผืนผ้าใบในระดับสมัครเล่นแบบเต็มตัว

ด้วยวัยเพียง 19 ปี คูเอดราสเดินทางเข้าสู่การแข่งขัน 2007 หรือมหกรรมกีฬาระดับทวีปของอเมริกาเหนือและใต้ โดยเขาถือเป็นนักชกตัวแทนทีมชาติเม็กซิโกในรุ่นแบนตั้มเวต ซึ่งตัวเต็งของการแข่งขันครั้งนั้นคือ เจมส์ เปย์เรร่า นักชกชาวบราซิลที่คว้าเหรียญรางวัลจากรายการ มาแล้ว

คูเอดราสโคจรมาพบกับเต็งหนึ่งของการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ และเป็นนักชกหน้าใหม่ที่หักปากกาเซียนคว้าชัยชนะไปครองได้สำเร็จ ก่อนจะก้าวไปเจอกับ เคลาดิโอ มาร์เรโร่ นักชกชาวโดมินิกัน ซึ่งท้ายที่สุด คูเอดราส ก็คว้าชัยชนะไปได้ด้วยสกอร์ 15-11 และคว้าเหรียญทองแรกในการแข่งขันระดับนานาชาติไปครอง

หลังจากความสำเร็จครั้งใหญ่ คูเอดราส ก้าวเดินต่อด้วยการลงแข่งขันในรายการมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์โลก 2007 แต่น่าเสียดายที่คราวนี้เขาไปไม่ถึงฝั่งฝัน เพราะพ่ายแพ้ให้กับ โจเซฟ เมอร์เรย์ นักชกจากประเทศอังกฤษซึ่งจะก้าวไปคว้าเหรียญทองแดงในภายหลัง

แม้จะพลาดหวังในรายการใหญ่ แต่ผลงานบนเวทีสมัครเล่นของ คูเอดราส โดดเด่นเกินกว่าที่ใครจะปฏิเสธ เขาเคยกล่าวไว้ว่าเคยขึ้นชกในการแข่งขันระดับสมัครเล่นไปราว 160 ไฟต์ และแพ้แก่คู่แข่งไปเพียง 10 ครั้งเท่านั้น ไม่ว่าสถิติที่ออกจากปากคูเอดราสจะตรงกับความจริงหรือไม่ แต่ผลงานการชกที่ผ่านมาก็ยืนยันความสามารถของเขา จนทำให้เจ้าตัวตัดสินใจก้าวสู่สังเวียนมวยสากลอาชีพ นับตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา

เจ้าชายแห่งวงการมวยเม็กซิกัน

คาร์ลอส คูเอดราส เริ่มต้นอาชีพนักมวยสากลอาชีพของเขาด้วยการตระเวนชกในประเทศเม็กซิโก ซึ่งเจ้าตัวก็ทำผลงานได้ดีจากการสร้างสถิติไร้พ่ายในช่วงแรก จนผลงานที่โดดเด่นนี้ไปเข้าตา เทย์เคน โปรโมชั่น หรือ เทย์เคน บ็อกซิ่ง ยิม ค่ายมวยเก่าแก่ในประเทศญี่ปุ่นซึ่งดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 1924

คูเอดราส จึงถูกชักชวนไปขึ้นชกในประเทศญี่ปุ่น เขาเริ่มต้นด้วยการเอาชนะนักมวยจากแดนอาทิตย์อุทัยในเดือนตุลาคม ปี 2008 ก่อนจะต่อยอดด้วยการขึ้นชกกับนักมวยชาวไทยเป็นครั้งแรกในเดือนมีนาคม ปี 2009 ซึ่งหลังจากคว้าชัยชนะเหนือนักชกจากแดนสยามได้เป็นครั้งแรก ทาง เทย์เคน โปรโมชั่น จึงจัดหานักมวยชาวไทยมาชกกับ คูเอดราส อย่างต่อเนื่อง ราวกับมองเห็นว่าสักวันหนึ่ง คูเอดราส จะเจอกับคู่ปรับชาวไทยที่สมน้ำสมเนื้อกับเขาในอนาคต

แต่กว่าจะถึงวันนั้น คูเอดราส ยังคงบินไป-กลับระหว่างเม็กซิโกและญี่ปุ่นเพื่อขึ้นชกอย่างต่อเนื่อง และผลลัพธ์ของทุกแมตช์จบลงในผลลัพธ์แบบเดียวกัน คือ ชัยชนะของคูเอดราส ซึ่งในเวลานั้นเจ้าตัวทำงานหนักมากทั้งในและนอกสังเวียน โดยเฉพาะการฝึกซ้อมกับยอดฝีมือทั้งจากฝั่งตะวันตกและตะวันออก

คูเอดราส จะฝึกซ้อมกับ โจเซ่ หลุยส์ บูเอโน่ อดีตแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวตของ  เมื่อเขาอยู่เม็กซิโก และจะฝึกซ้อมกับ เซนได ทานากะ สุดยอดเทรนเนอร์ชาวญี่ปุ่นผู้ขึ้นชื่อในเรื่องการฝึกซ้อมโดยใช้เป้าชก เมื่ออาศัยอยู่ในแดนอาทิตย์อุทัย

หลังจากใช้เวลาราว 2 ปีบนสังเวียนมวยอาชีพ คูเอดราสก้าวไปคว้าความสำเร็จของตนได้สำเร็จ ผ่านการคว้าแชมป์ ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2010 ด้วยชัยชนะน็อกเหนือนักมวยร่วมชาติ ออสวัลโด โรดริเกวซ ผลงานนี้ทำให้ คูเอดราส ถูกจับตาว่าเป็นอนาคตใหม่ของวงการมวยเม็กซิกัน และสื่อในประเทศต่างพากันตั้งฉายาให้เขาว่า หรือ เจ้าชายคนใหม่ของวงการ

 

UFABETWIN

 

ถัดมาในเดือนกันยายน ปี 2011 คูเอดราสสามารถคว้าแชมป์ได้อีกหนึ่งรายการจากการคว้าแชมป์ จากชัยชนะน็อกเหนือ จอห์นนี่ การ์เซีย ก่อนจะก้าวไปคว้าแชมป์ ในเดือนกันยายน ปี 2012 ด้วยชัยชนะเหนือนักมวยชาวโคลอมเบีย โรนัลด์ ออร์เตก้า บาร์เรร่า ซึ่งเป็นการชนะน็อกในรูปแบบ TKO เหมือนกับการคว้าแชมป์สองครั้งก่อนหน้า

เท่ากับว่า คูเอดราส สามารถคว้าแชมป์ในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวตของสมาคม  มาครองถึง 3 เส้น ภายในเวลา 3 ปี ผ่านการเอาชนะคู่ต่อสู้แบบ  ทั้งหมด นี่ยังไม่รวมผลงานโดยรวมบนเวทีมวยสากลอาชีพซึ่งอยู่ที่ 26–0 หลังเอาชนะ ออร์เตก้า บาร์เรร่า

ทุกฝ่ายจึงเห็นตรงกันแล้วว่า ถึงเวลาที่ คูเอตราส จะก้าวไปท้าชิงรางวัลที่ใหญ่ที่สุดของรุ่นซูเปอร์ฟลายเวตของ นั่นคือ แชมป์โลก ซึ่งเวลานั้นกำลังถือครองโดย ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ยอดนักชกชาวไทยที่คว้าแชมป์โลก  รุ่นซูเปอร์ฟลายเวตมาครองจากชัยชนะเหนือ โยตะ ซาโตะ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2013

ไฟต์เจ้าปัญหา คว้าแชมป์เพราะคิ้วแตก ?

การพบกันระหว่าง ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น และ คาร์ลอส คูเอดราส ถูกพูดถึงตั้งแต่มีการประกบคู่กัน เนื่องจากทั้งสองต่างเป็นนักชกผลงานดีด้วยกันทั้งคู่ โดย คูเอดราส ไม่เคยแพ้ใครตั้งแต่เทิร์นโปรเมื่อปี 2008 แถมยังโชว์ผลงานป้องกันแชมป์ อีกสองครั้ง ก่อนขึ้นชกกับแชมป์โลกชาวไทย ส่วน ศรีสะเกษ ยังไม่เคยแพ้ใครตั้งแต่ปี 2010 ถือว่าครองสถิติไร้พ่ายยาวนานกว่า 4 ปี

ยิ่งไปกว่านั้นทั้งสองต่างเป็นนักชกที่โดดเด่นอยู่คนละซีกโลก โดย ศรีสะเกษ จะขึ้นชกที่ประเทศไทยเป็นหลัก ส่วน คูเอดราส จะขึ้นสังเวียนในประเทศเม็กซิโก ทั้งคู่ต่างไม่เคยข้ามเขตแดนของกันและกัน มีเพียงประสบการณ์ต่อยที่ญี่ปุ่นด้วยกันทั้งคู่ อย่างไรก็ตามแดนอาทิตย์อุทัยไม่ใช่ตัวเลือกของสถานที่จัดการแข่งขันมวยหยุดโลกในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวตคู่นี้

ประเทศไทย หรือ เม็กซิโก ใครสักคนจะต้องเสียเปรียบมหาศาลในการชกนี้ ? และเช่นเดียวกับที่ยอดนักชกชาวไทยสามารถคว้าแชมป์โลกชาวไทยมาครองได้ในบ้านเกิดที่จังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายจัดการแข่งขันจึงตัดสินใจเลือกให้แมตช์ชิงแชมป์โลก ครั้งนี้ จัดขึ้นที่กรุงเม็กซิโก ซิตี้ ประเทศเม็กซิโก

คูเอดราสจึงกุมความได้เปรียบมหาศาลในฐานะเจ้าบ้าน และเมื่อบวกกับสถิติก่อนหน้าที่เคยพบกับนักชกชาวไทยถึง 4 ครั้งในประเทศญี่ปุ่น คูเอดราส ก็สามารถเอาชนะได้ทั้งหมด ส่งผลให้บางคนเริ่มคิดว่า คูเอดราส อาจเป็นผู้ชนะเหนือแชมป์โลกชาวไทยจริง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบสถิติชนะน็อก 24 ครั้งของคูเอดราส ซึ่งไม่ได้เป็นรองผลงานชนะน็อก 25 ครั้งของศรีสะเกษเลย

อย่างไรก็ดี ศรีสะเกษ ให้สัมภาษณ์ด้วยความมั่นใจก่อนชกว่าเขาจะสามารถเอาชนะ คูเอดราส ได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเก็บตัวหนึ่งอาทิตย์ในเม็กซิโกที่เป็นไปได้สวย ศรีสะเกษจึงพูดด้วยความผ่อนคลายถึงการชกนอกทวีปเอเชียครั้งแรกของตน ซึ่งจะจบลงด้วยชัยชนะอย่างแน่นอน

“ผมอยู่ในสภาพร่างกายที่ยอดเยี่ยม และสภาพอากาศที่นี่ก็ไม่ใช่ปัญหา ผมมาที่นี่เพื่อพิสูจน์ว่าตัวผมเองคือแชมป์โลกที่แท้จริง ผมจะทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อหยุดเขา เพื่อเอาเข็มขัดแชมป์กลับบ้าน” ศรีสะเกษ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในเม็กซิโก

เมื่อเสียงระฆังแรกดังขึ้น กลายเป็นนักชกชาวเม็กซิกันที่ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ เมื่อแชมป์โลกชาวไทยบุกหนักตามสไตล์การชกที่คุ้นเคย แต่ความคล่องตัวของ คูเอดราส ส่งผลให้อาวุธที่ ศรีสะเกษ ออกมาแทบไม่เข้าเป้าเลยแม้แต่น้อย แถมยังสามารถออกหมัดที่อันตรายสวนกลับไปได้ตลอด ซึ่งการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วของลำตัวส่วนบน ถือเป็นจุดเด่นที่ร้ายการของ คูเอดราส อยู่แล้ว นั่นจึงส่งผลให้หมัดซ้ายที่ถือเป็นไม้ตายของ ศรีสะเกษ ไม่สามารถทำอันตราย คูเอดราส ได้เลย

การแข่งขันเดินทางเข้าสู่ยกที่ 4 ทั้งสองต่างเปิดหน้าแลกและคลุกวงในกันมากขึ้น ซึ่งนี่นำมาสู่เหตุการณ์อันอื้อฉาว หลังศรีษะของ ศรีสะเกษ โขกเข้าไปโดนบริเวณคิ้วซ้ายของ คูเอดราส จนเป็นแผลแตก กรรมการยุติการชกชั่วคราว เพื่อสั่งตัดคะแนนแชมป์โลกชาวไทย ก่อนจะเริ่มต้นการชกใหม่อีกครั้ง

สถานการณ์ในแมตช์ดังกล่าวไม่เป็นใจต่อศรีสะเกษเลยแม้แต่น้อย เพราะการถูกตัดคะแนนในการชกที่สูสีกันขนาดนี้ มีโอกาสมากที่แชมป์โลกชาวไทยจะเสียแชมป์ด้วยการแพ้คะแนน ศรีสะเกษจึงเปิดหน้าบุกเต็มกำลัง จนกระทั่งยกที่ 8 ได้เกิดจังหวะที่ศรีษะของ ศรีสะเกษ เข้าไปโขกแผลเก่าบริเวณคิ้วซ้ายของ คูเอดราส อีกครั้ง คราวนี้แผลแตกเป็นทางยาว และผู้ท้าชิงเสียเลือดมาก กรรมการจึงสั่งยุติการชกชั่วคราวอีกครั้ง เพื่อให้แพทย์เข้ามาดูอาการของคูเอดราส

ความโกรธเกรี้ยวจากแฟนมวยเจ้าถิ่นถาโถมเข้ามาสู่แชมป์โลกชาวไทย และเมื่อปรึกษากับทุกฝ่ายแล้ว กรรมการจึงตัดสินใจยุติการชกและตัดสินให้ คูเอดราส เป็นฝ่ายชนะในรูปแบบ เนื่องจากคะแนนบนสกอร์บอร์ดจากคณะกรรมการข้างสนามทั้งสามคน คูเอดราส ถือเป็นฝ่ายชนะ ศรีสะเกษ ทั้งหมด ด้วยคะแนน 78-73, 77-74 และ 77-75

ผลการตัดสินที่ออกมาสร้างความไม่พอใจแก่แฟนมวยสากลเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนจบของแมตช์ที่ทำให้บางคนคิดว่ามันมีลับลมคมในอะไรหรือไม่ เพราะถึงแม้ คูเอดราส จะขึ้นนำ ศรีสะเกษ จากการให้คะแนนอยู่ก็จริง

 

UFABETWIN

แต่นับจากยก 7 เป็นต้นมา แชมป์โลกชาวไทยถือเป็นฝ่ายครองความได้เปรียบเหนือผู้ท้าชิงชาวเม็กซิกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมัดที่อัดเข้าไปยังบริเวณลำตัวของ คูเอดราส ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของไฟต์ดังกล่าว แต่ไม่ว่าใครจะมองอย่างไรการตัดสินได้สิ้นสุดแล้ว และ คูเอดราส กลายเป็นแชมป์โลก รุ่นซูเปอร์ฟลายเวตคนใหม่

“เขาเล่นงานผมได้ด้วยหมัดเข้าบริเวณลำตัวในช่วงต้นยก 7 แต่ผมสามารถสวนกลับและยืนจนจบยกได้ด้วยดี เพราะฉะนั้นเขาจะบ่นเรื่องนี้ไม่ได้ ความจริงคือเขาชนะผมไม่ได้เท่านั้นเอง” คูเอดราส ให้สัมภาษณ์หลังคว้าแชมป์โลกสมัยแรกมาครอง

“เขาทำผมหัวแตกด้วยการโหม่งอย่างแรง และถึงแม้ผมจะเชื่อว่ามันเป็นอุบัติเหตุ แต่มันก็เป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้น เพราะเขาใช้หัวของตัวเองนำหน้ามาก่อนหมัดเสมอ ซึ่งแน่นอนว่ามันทำให้เกิดการปะทะกันอย่างแรง”

“ผมไม่แฮปปี้มากหรอกที่แมตช์ของเราต้องจบลงแบบนี้ เพราะผมอยากจะคว้าแชมป์โลกมาครองโดยไม่มีข้อครหาอะไร แต่ผมก็มีความสุขนะที่ผมสามารถคว้าชัยชนะเหนือแชมป์โลกที่ยิ่งใหญ่อย่างเขา”

โคจรกลับมาพบกันอีกครั้ง

ชัยชนะของ คูเอดราส เหนือ ศรีสะเกษ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของช่วงเวลาอันน่ามหัศจรรย์ของวงการมวยสากล ในยุคสมัยที่เรียกว่า “New Four Kings” หรือ “Hardcore Four” ซึ่งอ้างอิงถึงความยิ่งใหญ่ของนักชก 4 คน ได้แก่ คูเอดราส, ศรีสะเกษ, โรมัน กอนซาเลซ และ ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า ที่ผลัดกันคว้าแชมป์โลก รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต

เพราะหลังจากที่ คูเอดราส เอาชนะ ศรีสะเกษ เขาพ่ายแพ้การชกมวยสากลอาชีพไฟต์แรกในชีวิตให้แก่ กอนซาเลซ ในการแข่งขันเมื่อเดือนกันยายน ปี 2016 และเสียแชมป์โลก WBC ให้กับนักชกชาวนิการากัว ก่อนที่ กอนซาเลซ จะแพ้ให้กับ ศรีสะเกษ ในเดือนมีนาคม ปี 2017 นำมาสู่แชมป์โลกสมัยที่สองของยอดนักชกชาวไทย ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ศรีสะเกษ จะเสียเข็มขัดเส้นนี้ให้แก่ เอสตราด้า ในเดือนเมษายน ปี 2019

ตลอดช่วงเวลาที่ทั้งสี่ราชาขับเคี่ยวกันเพื่อครองความยิ่งใหญ่ในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต คูเอดราส ไม่เคยหวนกลับมาพบกับ ศรีสะเกษ เลยนับตั้งแต่แมตช์อันอื้อฉาวในประเทศเม็กซิโก โดยทางโปรโมเตอร์ของนักชกชาวไทยพยายามผลักดันให้การแข่งขันนี้เกิดขึ้นอีกครั้งในเมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2014 แต่ท้ายที่สุดการแข่งขันที่แฟนมวยทั่วโลกหวังจะเห็นผลตัดสินอันชัดเจนกลับไม่เกิดขึ้น

เวลาล่วงเลยผ่านถึงปี 2022 ใครจะเชื่อว่า ระหว่าง ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น และ คาร์ลอส คูเอดราส จะกลับมายืนบนเวทีเดียวกันอีกครั้งเพื่อชิงเข็มขัดเส้นเดิมที่พวกเขาเคยต่อสู้กันเมื่อ 8 ปีก่อน หลัง  หัวใส ตัดสินใจแต่งตั้ง เอสตราด้า เป็นแชมป์แฟรนไชส์ เพื่อเปิดทางให้ตำแหน่งแชมป์โลก ว่างลง

ก่อนจัดทัวร์นาเมนต์ที่ 4 ราชาจะเข้าร่วมแข่งขันเพื่อหาแชมป์หนึ่งเดียวของรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต โดย กอนซาเลซ และ เอสตราด้า จะพบกันเพื่อชิงแชมป์โลก ซึ่งเอสตราด้าเพิ่งไปกระชากมาจากเอวของกอนซาเลซเมื่อปี 2021 ส่วน ศรีสะเกษ และ คูเอดราส จะเจอกันเพื่อชิงแชมป์ และผู้ชนะทั้งสองแมตช์ จะเจอกันในรอบชิงชนะเลิศ เพื่อชิงแชมป์ทั้งสองสถาบัน เพื่อหาสุดยอดนักชกตัวจริงของรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต

หลายฝ่ายต่างมองว่าทัวร์นาเมนต์ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ถือเป็นตำนานบทสุดท้ายที่สุดยอดนักชกทั้งสี่จะมีร่วมกันในระดับสูง เพราะทั้งหมดต่างเข้าสู่วัย 30+ กันแล้วทั้งหมด แฟนมวยทั่วโลกจึงพอใจอย่างมากที่เรื่องราวการต่อสู้ของพวกเขาจะจบลงโดยได้เห็นบทสรุปของ ศรีสะเกษ และ คูเอดราส ที่ค้างคามานานเกือบสิบปี

สำหรับ ศรีสะเกษ นี่คือโอกาสที่จะทำให้เขาเป็นนักมวยชาวไทยคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์โลก เป็นสมัยที่สาม และถ้าพูดกันตามตรงนักชกจากประเทศไทยถือครองแต้มต่อในการแข่งขันรอบนี้ หลายคนมองถึงการชกไฟต์ที่สามระหว่างเขากับเอสตราด้าที่จะตัดสินว่าใครคือเบอร์หนึ่งตัวจริง มากกว่าจะโฟกัสไปยังแมตช์ที่รออยู่เบื้องหน้า ซึ่งแม้แต่ ศรีสะเกษ เอง ก็เอ่ยปากในลักษณะนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

“ผมตั้งหน้าที่จะเอาชนะแมตช์ชิงแชมป์โลกที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะผมอยากจะเป็นแชมป์โลก สามสมัยคนแรกของประเทศไทย นอกจากนี้ผมยังมีธุระที่ต้องสะสางกับ ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า จึงต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันทำให้ไฟต์นี้เกิดขึ้นจริง” ศรีสะเกษ ให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวแมตช์ของเขากับ คูเอดราส

แต่ขณะเดียวกัน คูเอดราส ยังเป็นคู่แข่งที่ประมาทไม่ได้ แม้ปัจจุบัน เขาจะเป็น “หมายเลข 4” ในบรรดานักชกกลุ่มนี้ เนื่องจากพ่ายแพ้ให้กับ เอสตราด้า และ กอนซาเลซ ในครั้งล่าสุดที่พบกับทั้งสอง แต่เราต้องไม่ลืมว่า เขาคือคนเดียวที่ไม่เคยพ่ายแพ้ให้กับศรีสะเกษ แม้ชัยชนะที่เกิดขึ้นในปี 2014 อาจจะอื้อฉาวไปหน่อยก็ตาม

“ผมตื่นเต้นมากที่ได้รับโอกาสกลับมาต่อสู้เพื่อเข็มขัดแชมป์โลกอีกครั้ง เรากำลังฝึกซ้อมกับนักชกมือซ้าย 3-4 คนที่มีสไตล์คล้ายกับศรีสะเกษ พวกเขาพร้อมที่จะคว้าชัยชนะ และผมฝึกซ้อมอย่างยอดเยี่ยมบนเทือกเขาสูงในเม็กซิโก เราจะไม่ผิดหวังที่รับคำท้าในตอนนี้ และผมจะนำแชมป์โลกกลับสู่เม็กซิโก” คูเอดราส กล่าว

UFABETWIN